​ไทยถก JTC อินเดีย ขอเลิกมาตรการนำเข้ายางล้อ โทรทัศน์สี แอร์ ยางพารา ไม้ตัดดอก

img

ไทย-อินเดียประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ครั้งที่ 13 มุ่งแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้า เห็นชอบใช้ระบบ ESS ในหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า เชื่อมระบบการเงินรองรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ร่วมมือทำหนัง ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ไทยสบช่องขอยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้ายางล้อ โทรทัศน์สี มาตรการห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศ การจำกัดด่านนำเข้ายางพารา ไม้ตัดดอก และขอเปิดตลาดมะพร้าวอ่อน
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ไทย-อินเดีย ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย หลังจากเว้นช่วงการประชุมไปกว่า 20 ปี ว่า ที่ประชุมได้หารือประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้า เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชน ซึ่งจะทำให้การค้าระหว่างกันขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการที่จะใช้การลงนามและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signatures and Seals : ESS) ในหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า รวมทั้งผลักดันการใช้ QR Code ผ่านการเชื่อมโยงระบบ Unified Payments Interface (UPI) ของอินเดียกับระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) ของไทย เพื่อรองรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือด้านการถ่ายทำภาพยนตร์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

ทั้งนี้ ไทยได้ใช้โอกาสนี้ ขอให้อินเดียยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้ายางล้อและโทรทัศน์สี และให้ข้อมูลขั้นตอนและรายละเอียดการยื่นขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้าดังกล่าว รวมทั้งยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่มีสารทำความเย็น และการจำกัดด่านนำเข้ายางพาราและไม้ตัดดอก พร้อมทั้งขอให้อินเดียพิจารณาเปิดตลาดสินค้ามะพร้าวอ่อน ซึ่งอินเดียพร้อมพิจารณาคำขอการเปิดตลาดของไทย  
         


อย่างไรก็ตาม ได้รับแจ้งจากอินเดียว่า ปีนี้อินเดียจะเป็นประธานกลุ่ม G20 ได้ตั้งเป้าจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และเพิ่มการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลก รวมทั้งผลักดันการใช้สกุลเงินท้องถิ่น คือ อินเดียรูปี ในการค้าขายระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ จากปัจจุบันมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก เป็นอันดับ 3 ของโลก ในปี 2573 ผ่านการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ เพิ่มการส่งออก และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสาขาโลจิสติกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีชีวภาพ หุ่นยนต์ รถยนต์แห่งอนาคต และเชื้อเพลิงชีวภาพ

ในปี 2565 การค้าระหว่างไทยและอินเดีย มีมูลค่า 17,702.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 18.06% โดยไทยส่งออกไปอินเดีย มูลค่า 10,524.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากอินเดีย มูลค่า 7,178.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น เม็ดพลาสติก ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และสินค้านำเข้าสำคัญของอินเดีย เช่น เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะ เคมีภัณฑ์ และพืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และในช่วง 2 เดือน ของปี 2566 (ม.ค.–ก.พ.) การค้าระหว่างไทยและอินเดีย มีมูลค่า 2,692.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอินเดีย มูลค่า 1,619.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากอินเดีย มูลค่า 1,073.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง