“ไทย-ศรีลังกา” เร่งเครื่องเจรจา FTA นัดคุยทุก 2 เดือน ตั้งเป้าสรุปผลภายในต้นปี 67

img

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยผลการประชุมเจรจา FTA ไทย-ศรีลังกา รอบ 3 หลังชะงักไป 4 ปี เคาะแผนจัดการประชุมทุก 2 เดือน เพื่อให้การเจรจาคืบหน้า ตั้งเป้าสรุปผลให้ได้ภายในต้นปี 67 ระบุศรีลังกาให้ความสำคัญมาก กำหนดไทยเป็น 1 ใน 3 ชาติ ที่ต้องเจรจา FTA ให้สำเร็จในช่วง 1-2 ปีนี้
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–ศรีลังกา รอบที่ 3 ซึ่งได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมระหว่างวันที่ 9–10 ม.ค.2566 ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ว่า การประชุมครั้งนี้ แบ่งเป็นการหารือในระดับหัวหน้าคณะเจรจา เพื่อหารือภาพรวมและกำกับดูแลความคืบหน้าของการเจรจา โดยทั้งสองฝ่ายเห็นว่า FTA เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยขยายการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศ จึงได้ตั้งเป้าที่จะสรุปผลการเจรจาภายในต้นปี 2567 และได้กำหนดแผนที่จะจัดการประชุม FTA ทุก ๆ 2 เดือน เพื่อให้การเจรจาคืบหน้าและหาข้อสรุปได้ตามเวลาที่กำหนด และยังมีการประชุมกลุ่มย่อย 6 คณะ ได้แก่ การค้าสินค้า กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า พิธีการทางศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งการหารือมีความคืบหน้าด้วยดี
         
“ศรีลังกาได้ให้ความสำคัญกับการประชุมครั้งนี้มาก โดยจัดให้ไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศ นอกจากอินเดียและจีน ที่ศรีลังกาตั้งเป้าจะเดินหน้าผลักดันให้การเจรจา FTA คืบหน้า และมีผลสำเร็จในช่วง 1–2 ปีนี้”นางอรมนกล่าว



ทั้งนี้ ไทยและศรีลังกาได้จัดการเจรจา FTA มาแล้ว 2 รอบ เมื่อปี 2561 จากนั้นการเจรจาได้หยุดชะงักไป 4 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 และการปรับหน่วยงานที่ดูแลการเจรจาของศรีลังกา และหลังจากนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรอบที่ 4 ที่กรุงเทพฯ ในช่วงปลายเดือนมี.ค.2566

สำหรับการค้าไทย-ศรีลังกา ในช่วงเดือน 11 เดือนปี 2565 (ม.ค.–พ.ย.) มีมูลค่า 334.31 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 11,579.58 ล้านบาท โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา มูลค่า 253 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 8,722.31 ล้านบาท สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ยางพารา ผ้าผืน อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และนำเข้าจากศรีลังกา มูลค่า 81.31 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 2,857.27 ล้านบาท สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอยและอัญมณี เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และเคมีภัณฑ์





ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง