​เศรษฐกิจฟื้น ท่องเที่ยวบูม หนุนบริษัทตั้งใหม่ต.ค.65 จำนวน 5,911 ราย เพิ่ม 6%

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยบริษัทตั้งใหม่เดือนต.ค.65 มีจำนวน 5,911 ราย เพิ่มขึ้น 6% หลังคนมั่นใจเศรษฐกิจฟื้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินตามปกติ และท่องเที่ยวบูม ส่วนยอดเลิก 1,973 ราย ลด 0.1% รวม 10 เดือน ตั้งใหม่ 66,707 ราย เลิก 13,412 ราย คาดทั้งปี 65 ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ที่ 68,000-72,000 รายแน่

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนต.ค.2565 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,911 ราย เทียบกับก.ย.2565 ลดลง 18% และเทียบกับต.ค.2564 เพิ่มขึ้น 6% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 34,606.73 ล้านบาท และประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่ติดอันดับ 3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ
         
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,973 ราย เมื่อเทียบกับก.ย.2565 เพิ่มขึ้น 1% เทียบกับต.ค.2564 ลดลง 0.1% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 7,315.55 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
         


ทั้งนี้ ยอดรวมการจดทะเบียนตั้งใหม่ 10 เดือนปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวน 66,707 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 388,543.73 ล้านบาท และยอดเลิกกิจการ รวม 13,412 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวน 95,561.03 ล้านบาท
         
นายจิตรกรกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการจัดตั้งบริษัทใหม่เพิ่มขึ้น มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนธุรกิจที่เริ่มทยอยกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการลงทุนทำธุรกิจเพิ่มขึ้น และคาดว่าการจดตั้งใหม่ทั้งปี 2565 จะเกินไปกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 68,000–72,000 ราย
         
ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ต.ค.2565) จำนวน 849,958 ราย  มูลค่าทุน 20.56 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,330 ราย คิดเป็น 23.69% บริษัทจำกัด จำนวน 647,253 ราย คิดเป็น 76.15% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,375 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง