“จุรินทร์”ถกผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ขอให้ปลดไทยพ้นบัญชี WL ใช้ไทยเป็นฐานลงทุน

img

“จุรินทร์”ใช้โอกาสเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ถกผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ขอพิจารณาถอดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามอง (WL) ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ในการพิจารณาเดือนก.ย.นี้ พร้อมขอให้หนุนไทยเป็นแหล่งผลิตและแหล่งลงทุนผลิตวัตถุดิบป้อนสหรัฐฯ ตามนโยบายซัปพลายอเมริกา ด้านสหรัฐฯ ขอไทยสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกปีหน้า เห็นพ้องหนุนการประชุม WTO ยันพร้อมเข้าร่วมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือทวิภาคี (Bilateral discussions) กับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ณ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ว่า ไทยได้หยิบยกประเด็นขึ้นหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โดยขอให้สหรัฐฯ พิจารณาถอดไทยออกจากบัญชีจับตามอง หรือ Watch List – WL ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งในเดือนก.ย.2565 เพราะที่ผ่านมา ประเทศไทยถือว่ามีความคืบหน้าอย่างยิ่งในการดำเนินการจัดการการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม รวมทั้งมีกฎหมายทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่มีความทันสมัย และมีรายงานจากผู้แทนของสหรัฐฯ ที่มาติดตามความคืบหน้าการดูแลด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย รายงานไปในทางบวกที่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมแล้ว
         
ทั้งนี้ ไทยยังได้ขอให้สหรัฐฯ สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบและแหล่งลงทุนด้านการผลิตวัตถุดิบ ทั้งขั้นต้นและขั้นกลางให้กับสหรัฐฯ ตามนโยบายของประธานาธิบดีไบเดน ที่ชื่อว่า “ซัปพลายอเมริกา” ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ โดยวัตถุดิบที่จะเป็นวัตถุดิบขั้นกลางในการสนับสนุนการผลิตขั้นต่อไปในสหรัฐฯ ไทยได้เชิญชวนมาลงทุนที่เมืองไทย เช่น การผลิตแบตเตอรีที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า การลงทุนด้านวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหาร ยา และการลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น
         
สำหรับประเด็นการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก และการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ที่ไทยเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรี 21 เขตเศรษฐกิจ ขอให้สหรัฐฯ ช่วยสนับสนุนการออกแถลงการณ์ร่วมที่เป็นผลจากการประชุมครั้งนี้ ซึ่งสหรัฐฯ ไม่มีประเด็นขัดข้อง
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า ประเด็นที่สหรัฐฯ หยิบยกมาคุยกับไทย สหรัฐฯ แจ้งว่าพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปกของประเทศไทยในปีนี้ และสนับสนุนการทำหน้าที่ประธานการประชุมรัฐมนตรีการค้าของเอเปก และที่สำคัญปีหน้าสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกต่อจากประเทศไทย ขอให้ช่วยสนับสนุนด้วยเช่นเดียวกัน และขอเชิญผู้แทนจากประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกับสหรัฐฯ ต่อไปในปีหน้า


         


ส่วนการประชุมองค์การการค้าโลก (WTO) มีความเห็นที่สอดคล้องกันในภาพรวมทั้ง 2 ประเทศ โดยต่างล้วนประสงค์ผลักดันให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก หรือที่เรียกว่า MC 12 (Ministerial Conference) เกิดขึ้น มีประเด็นสำคัญ เช่น การปฏิรูป WTO การจัดตั้งองค์กรอุทธรณ์ของ WTO ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะมีความสำคัญสำหรับกรณีข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อองค์กรพิจารณาข้อพิพาทขั้นต้นได้มีคำตัดสินแล้ว ยังสามารถอุทธรณ์ไปยังองค์กรอุทธรณ์ได้ แต่ขณะนี้องค์กรอุทธรณ์ยังไม่มีการจัดตั้งขึ้น ต้องรอผลการประชุมร่วม WTO ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมีความสำคัญในการช่วยยุติข้อพิพาทระหว่างสมาชิก เห็นควรให้จัดตั้งองค์กรนี้โดยเร็ว
         
นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือเรื่องกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก สหรัฐฯ ได้แจ้งให้ประเทศไทยรับทราบ และเชิญประเทศไทยเข้าร่วมในการประกาศเจตนารมณ์จัดตั้งกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก ขึ้นที่กรุงปารีสในช่วงประมาณวันที่ 11 มิ.ย.2565 ซึ่งไทยแจ้งว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบแล้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แจ้งความประสงค์ในการเข้าร่วมการแสดงเจตนารมณ์เจรจาต่อไป สำหรับการเชิญรัฐมนตรีพาณิชย์เข้าร่วมประชุมในช่วงที่ปารีสนั้น ตนรับทราบเป็นการเบื้องต้น
         
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้และวันมะรืนนี้ (21-22 พ.ค.2565) จะมีการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ซึ่งสหรัฐฯจะเข้าร่วมการประชุมด้วยตลอด 2 วัน ถ้ามีประเด็นอะไรเพิ่มเติม ก็จะหยิบยกขึ้นมาหารือกันในที่ประชุมได้อีกครั้ง
         
ปัจจุบัน มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในปี 2564 มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 56,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 1.77 ล้านล้านบาท ถือเป็นคู่ค้าลำดับสำคัญลำดับที่ 3 ของไทย รองจากจีน และญี่ปุ่น โดยไทยได้ดุลสหรัฐฯ และสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกลำดับ 1 ของไทย โดยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐ 41,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 1.31 ล้านล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่ที่ส่งไปสหรัฐฯ เช่น คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์และอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น



ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง