​“พาณิชย์”ยันมีมาตรการดูแล “มังคุด” ช่วงผลผลิตออก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

img

“พาณิชย์”ยันมีมาตรการดูแล “มังคุด” ช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด เพื่อดูแลเกษตรกร ทั้งจัดจับคู่เจรจาซื้อขายล่วงหน้า สนับสนุนค่าบริหารจัดการกระจายผลผลิต เปิดพื้นที่ขายในห้าง ปั๊ม แจกกล่อง นำขายผ่านรถเร่ เสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ และชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อผลไม้ ยันข่าวราคามังคุดตกต่ำ ไม่ตรงความจริง แค่อ่อนตัว ช่วงจีนปิดด่าน 4 พ.ค. ตามนโยบาย Zero Covid ทำให้ผู้ส่งออก ล้ง หยุดซื้อ ขณะนี้ปกติ ราคาดีขึ้นแล้ว
         
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมาตรการบริหารจัดการผลไม้ฤดูการผลิตปี 2565 รวมถึงมังคุดไว้เป็นการล่วงแล้ว โดยมีแผนที่จะจับคู่เจรจาซื้อขายล่วงหน้า (อมก๋อยโมเดล) รวม 4,700 ตัน สนับสนุนค่าบริหารจัดการในการเชื่อมโยงกระจายออกนอกแหล่งผลิตกิโลกรัม (กก.) ละ 3 บาท ปริมาณ 7,800 ตัน เปิดพื้นที่ขายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ณ ห้างท้องถิ่น ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ปั้มน้ำมัน รวม 1,000 ตัน จัดสรรกล่องไปรษณีย์ ขนาด 10 กก. ไปยังไปรษณีย์สาขาทั่วประเทศ รวม 300,000 กล่อง กรณีผลผลิตกระจุกตัว ได้จัดเตรียมรถเร่ Mobile เข้าไปเร่งรับซื้อผลผลิตเพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคนอกพื้นที่โดยตรง เสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการเพื่อเร่งรับซื้อผลิตได้มากขึ้น โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการ กก.ละ 4 บาท และ ชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อรวบรวมรับซื้อผลไม้ ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน    
         
ทั้งนี้ กรมฯ ยังจะติดตามสถานการณ์ราคาผลไม้ทุกชนิดอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ โรงคัดบรรจุ ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจน ป้องปรามมิให้เกิดพฤติกรรมการโกงตาชั่งน้ำหนักในขั้นตอนการรับซื้อ และพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบทางการค้า โดยเฉพาะการฮั้วราคา หากตรวจพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยหากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่าน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
         


นายอุดมกล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีข่าวราคามังคุดปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณมังคุดที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับการใช้มาตรการ Zero Covid ของจีน ทำให้จีนมีการปิดด่านโม่ฮานชั่วคราวในวันที่ 4 พ.ค.2565 เพื่อทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ส่งผลให้มีสินค้าส่งออกตกค้างที่หน้าด่านเป็นจำนวนมาก ขณะที่ผู้ส่งออกไทย ล้ง หยุดรับซื้อชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดพื้นที่และคัดกรองสุขภาพของแรงงานที่จะปฏิบัติงานในโรงคัดบรรจุ 1-2 วัน ซึ่งตรงกับช่วงที่ราคามังคุดอ่อนตัวลงตามข่าว ปัจจุบัน (11 พ.ค.2565) ผู้ส่งออก ล้ง ได้เปิดรับซื้อตามปกติแล้ว มีผลทำให้ราคามังคุดผิวมันรวม (เกรดส่งออก) ที่เกษตรกรขายได้ ปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน (2-8 พ.ค.2565) ที่มีราคาเฉลี่ย กก.ละ 50-55 บาท เป็นเฉลี่ย กก.ละ 60–70 บาท สำหรับราคาประมูล เฉลี่ย กก.ละ 80-85 บาท ส่วนราคามังคุดคละ (กาก) ปรับตัวสูงจาก กก. 30–35 บาท เป็น กก.ละ 40-45 บาท 
         
ส่วนการเทียบเคียงราคามังคุดที่เทียบเคียงราคาขายในตลาดปลายทางประเทศจีน กับราคาที่เกษตรกรขายได้ในช่วงเดียวกันนั้น ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในกระบวนการรับซื้อผลไม้เพื่อการส่งออกไปยังตลาดปลายทาง เนื่องจากการส่งออกต้องใช้ระยะเวลาในการขนส่งจากไทยไปจีนหลายวัน เช่น การขนส่งทางบก ใช้เวลา 7-10 วัน หากจะเทียบเคียงความเหมาะสมของราคาส่งออกกับราคาเกษตรกรขายได้ ต้องพิจารณาจากราคาปัจจุบันในจีน เทียบกับราคาที่เกษตรกรขายได้หน้าสวนนับย้อนหลังอย่างน้อยประมาณ 12-14 วัน (วันที่รับซื้อรวมเวลาคัดแยก บรรจุ และระยะเวลาขนส่ง) เมื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์นี้แล้วจะพบว่า ราคามังคุดตามข่าวในประเทศจีนที่มีราคาสูงมากถึงกก.ละ 167-240 บาท จะสอดคล้องกับราคามังคุดที่เกษตรกรขายได้ (ย้อยหลัง 12–14 วัน) ที่ราคา กก.ละ 140–160 บาท
         
ปัจจุบัน ผลไม้ของภาคตะวันออก (จันทบุรี ระยอง และตราด) เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ เป็นต้น ได้เริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนเม.ย.2565 แต่ปริมาณยังไม่มากนัก และจะออกกระจุกตัวมากในช่วงเดือนพ.ค.2565 ประมาณ  50% ของผลผลิต สำหรับผลผลิตมังคุดทั้งประเทศ ปี 2565 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดว่ามีปริมาณรวม 373,378 ตัน เพิ่มขึ้น 38% เนื่องจากปีที่ผ่านมาผลผลิตได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศแปรปรวนและคุณภาพไม่ดี ทำให้มังคุดได้พักต้น ต้นมังคุดมีความสมบูรณ์จึงให้ผลผลิตในปีนี้มากขึ้น แต่จากการติดตามสถานการณ์การผลิตมังคุดในภาคใต้ที่ประสบปัญหาสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย คาดว่าผลผลิตในภาพรวมปีนี้มีแนวโน้มจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้    

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง