“ทูตพาณิชย์ดูไบ”เผยสินค้า “เสื้อผ้าเด็ก” มีโอกาสในการทำตลาดตะวันออกลาง แนะต้องผลิตสินค้าที่มีความแปลกใหม่ทันสมัย ออกแบบเสื้อผ้าเป็นเซ็ตให้ถูกใจพ่อแม่ และต้องรักษาคุณภาพสินค้าให้สม่ำเสมอ พร้อมใช้ช่องทางออนไลน์ทำตลาด ส่วนการเข้าสู่ตลาดใช้ดูไบเป็นฐานก่อนกระจายไปยังประเทศอื่น
นายปณต บุณยะโหตระ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าเด็กในตลาดตะวันออกลาง ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยพบว่าสินค้าเสื้อผ้าเด็กของไทย เป็นสินค้าระดับกลางกลุ่ม B+ มีคู่แข่งหลักเป็นสินค้าของตุรกี และเสื้อผ้าเด็กที่นำเข้าจากเวียดนาม กัมพูชา ศรีลังกา ซึ่งเป็นสินค้าผลิตภายใต้แบรนด์ยุโรปและอเมริกา โดยสินค้าไทยได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพและมาตรฐาน ทำให้มีโอกาสในการทำตลาด
สำหรับรูปแบบของสินค้า ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยจะต้องออกแบบสินค้าให้แปลกใหม่ทันสมัยอยู่เสมอ ออกแบบเสื้อผ้าเป็นเซ็ตให้ถูกใจพ่อแม่ ที่เป็นผู้ตัดสินใจซื้อ และรักษาคุณภาพของสินค้าให้สม่ำเสมอ เพราะสินค้าไทยมีความเสียเปรียบจีนในด้านราคา จึงต้องสู้ด้วยคุณภาพ
ส่วนช่องทางการจำหน่ายหลัก กว่าร้อยละ 70 ยังเป็นร้านค้าปลีกเสื้อผ้า ห้างสรรพสินค้า แต่ก็มีแนวโน้มว่าตลาดค้าปลีกออนไลน์กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกต้องเร่งปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์เพื่อรองรับการขยายตัวของช่องทางนี้ เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อ ความต้องการของพ่อแม่ผู้ปกครองรุ่นใหม่ยุคมิลเลนเนียลให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
ทางด้านการเข้าสู่ตลาด ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้ดูไบเป็นฐานในการส่ออก แล้วส่งออกต่อไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น กลุ่มประเทศแอฟริกา ยุโรปตะวันออก กลุ่มประเทศ CIS ประเทศโอมาน เยเมน อิรัก และอิหร่าน เป็นต้น
ปัจจุบัน เสื้อผ้าเด็กและของใช้สำหรับเด็ก ยังคงเป็นตลาดที่น่าจับตามอง โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 10 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติ 8.84 ล้านคน จากเอเซียใต้ (อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล ศรีลังกา) อิหร่าน ฟิลิปปินส์และอื่นๆ ชาวอาหรับยูเออีพื้นเมืองมีจำนวน 1.2 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.5 ของประชากร สำหรับประชากรเด็กอายุ 0-14 ปี มีจำนวน 1.4 ล้านคน
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง