​“พาณิชย์”เร่งช่วยเกษตรกรลำไยภาคเหนือ อัดมาตรการดูดซับผลผลิตเป้า 80,000 ตัน

img

กรมการค้าภายในเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ ตั้งเป้าดูดซับผลผลิตกว่า 80,000 ตัน ทั้งช่วยค่าบริหารจัดการในการรับซื้อกิโลละ 3 บาท ดึงห้างช่วยซื้อไปขาย ช่วยสนับสนุนเพื่อผลักดันส่งออก ดึง ธ.ก.ส.ให้สินเชื่อเสริมสภาพคล่องสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการ พร้อมส่งรถโมบายนำลำไยวิ่งจำหน่ายถึงหน้าบ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประสานปั๊ม ปตท. บางจาก พีที เปิดพื้นที่ให้วางขาย  

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ จะเร่งช่วยเหลือดูดซับผลผลิตลำไยในช่วงที่ออกกระจุกตัวในช่วงนี้ รวมกว่า 80,000 ตัน โดยช่วยค่าบริหารจัดการ 3 บาท/กิโลกรัม (กก.) ในการรับซื้อลำไยของ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย แพร่ น่าน และพะเยา การทำสัญญาข้อตกลง (อมก๋อยโมเดล) กับผู้ซื้อ 6 ราย ได้แก่ บิ๊กซี เดอะมอลล์ โลตัส แม็คโคร ตลาดกลาง และ P80 เป้าหมาย 4,788 ตัน กระตุ้นการส่งออกโดยช่วย 5 บาท/กก. ซึ่งมีผู้ส่งออกลำไยที่ยื่นขอรับการสนับสนุน 31 ราย เป้าหมายส่งออก 59,482 ตัน และช่วยเสริมสภาพคล่องโดยช่วยชดเชยดอกเบี้ย 3% 6 เดือน ให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ วงเงินกู้รายละ 50 ล้านบาท รวม 3,300 ล้านบาท ซึ่งได้รับความร่วมมือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ออกโครงการสินเชื่อเสริมแกร่ง SMEs และเกษตร โดยมี บสย. ช่วยค้ำประกันสินเชื่อ ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปีแรก ภายใต้โครงการ PGS ระยะที่ 9 

ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคลำไย เป้าหมาย 2,350 ตัน ผ่านร้านธงฟ้า รถโมบายผลไม้ นำลำไยวิ่งไปจำหน่ายถึงหน้าบ้านประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 30 คัน รณรงค์บริโภคลำไยผ่านห้างท้องถิ่น ห้างค้าส่งค้าปลีก ททบ.5 (เพิ่มการรับซื้อจากปกติ) โดยในส่วนสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บางจาก พีที ได้ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่จำหน่ายฟรีแก่เกษตรกร และอยู่ระหว่างประสานร่วมรณรงค์บริโภคลำไยกับกระทรวงพาณิชย์ด้วย



“การเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการเร่งด่วนให้กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดต้นทาง ปลายทาง ในฐานะเซลล์แมนจังหวัด และทูตพาณิชย์ในฐานะเซลล์แมนประเทศ เข้าไปช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกลำไย รวมถึงผู้ประกอบการและผู้ส่งออกลำไย”นายวัฒนศักย์กล่าว

ปัจจุบัน เป็นช่วงที่ผลผลิตลำไยภาคเหนือออกสู่ตลาด โดยจังหวัดที่ปลูกมาก คือ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย มีผลผลิตรวมกันกว่า 88% ของลำไยทั้งหมด โดยในฤดูกาลผลิตปีนี้ ผลผลิตบางส่วนได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งกระทบร้อนและฝนตกชุก ทำให้ลำไยลูกเล็กแตกลาย แก่เร็วกว่าปกติ ขึ้นหัว ไม่สามารถนำไปใช้อบได้ ประกอบกับมีปัญหาด้านแรงงาน เพราะแรงงานชนเผ่าหลายหมู่บ้านไม่สามารถลงมารับจ้างเก็บลำไยได้ จากมาตรการปิดหมู่บ้านจากโควิด-19 แรงงานต่างด้าว ไม่สามารถเดินทางข้ามเขตได้ และแรงงานไทยจากภาคอื่น ก็ไม่ต้องการออกจากพื้นที่

นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบด้านตลาดรองรับ จากปกติ 65% ของผลผลิตลำไย จะใช้ในการแปรรูปเป็นลำไยอบแห้งและผลิตภัณฑ์อื่น แต่ในปีนี้ ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับคำสั่งซื้อจากจีนที่เป็นตลาดหลัก ทำให้ขาดความมั่นใจ จึงชะลอการรับซื้อในช่วงนี้ รวมถึงเวียดนามมีผลผลิตมากขึ้น จึงนำเข้าลำไยรูดร่วงจากไทยเพื่อนำไปอบแห้งลดลง ขณะที่สหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่เป็นผู้รวบรวม ก็ขาดสภาพคล่องด้านเงินหมุนเวียนที่จะใช้รับซื้อลำไย

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง