​“พาณิชย์”โชว์ผลแมชชิ่งตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา ยอดขายปัง 52 ล้าน

img

“พาณิชย์”โชว์ผลงานจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา รับออเดอร์ทันที 52 ล้านบาท แถมผู้ซื้อ ผู้นำเข้าอีกหลายราย ขอข้อมูลสินค้า เพื่อดิวต่อในอนาคต เผยอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกล เครื่องมือแพทย์ สินค้าแฟชั่น ได้รับความสนใจล้นหลาม
         
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจัดโครงการจับคู่ธุรกิจเพื่อเจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ในตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้เร่งรัดการเปิดตลาดใหม่ ว่า ผู้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจเป็นผู้ส่งออกไทยจำนวน 123 บริษัท และมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น จำนวน 74 ราย เกิดการจับคู่ธุรกิจได้จำนวน 123 คู่ และมีมูลค่าการสั่งซื้อประมาณ 52 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี และผู้ซื้อ ผู้นำเข้าอีกหลายรายแสดงความประสงค์ที่จะขอข้อมูลสินค้าและรายละเอียดเพิ่มจากผู้ส่งออกไทย เพื่อทำการเจรจาการค้าเพิ่มเติมต่อไปในภายหลัง 
         
สำหรับสินค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้นำเข้า ได้แก่ สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องมือแพทย์ และสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์  
         
นางมัลลิกากล่าวว่า ตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และนายจุรินทร์ได้ให้ความสำคัญในการเพิ่มสัดส่วนการส่งออก ภายใต้นโยบายเปิดตลาดใหม่ ฟื้นตลาดเก่า อย่างซาอุดิอาระเบียและแอฟริกา ที่เคยเป็นตลาดข้าวของไทย ก็ต้องหาทางฟื้นขึ้นมา โดยให้ทูตพาณิชย์ฐานะเซลส์แมนประเทศทำงานเชิงรุก ทำงานเป็นทีม และประสานงานกับพาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัด ช่วยกันพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และช่วยเพิ่มช่องทางการขาย


นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
         


ทั้งนี้ ตลาดตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ผลิตสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงต้องอาศัยการนำเข้า โดยเฉพาะสินค้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค และมีการเร่งอัดฉีดเงิน เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 ทำให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของไทย โดยในช่วง 6 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) ไทยส่งออกไปตะวันออกกลาง 132,235.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.78% ตลาดที่ส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย และตุรกี สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น
         
ตลาดแอฟริกา เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เป็นตลาดที่กำลังเติบโตและมีความต้องการสินค้ามาก ทั้งแอฟริกาตะวันออกและตะวันตก และเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2564 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาได้เริ่มใช้ความตกลงเขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกา (African Continental Free Trade Area : AfCFTA) มีสมาชิก 54 ประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้มีการค้าระหว่างกันในแอฟริกาเพิ่มมากขึ้น และน่าจะส่งผลบวกต่อการส่งออกของไทย ที่จะเจาะเข้าสู่ตลาดแอฟริกา โดยการส่งออกของไทยไปแอฟริกาในช่วง 6 เดือน มีมูลค่า 96,834.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.4% ประเทศ 3 อันดับแรกที่ไทยส่งออกไปมากที่สุด ได้แก่ แอฟริกาใต้ อียิปต์ และไนจีเรีย สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ ข้าว เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป
         
ตลาดลาตินอเมริกา เป็นตลาดที่กำลังฟื้นตัว มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสในการส่งออกของไทย โดยในช่วง 6 เดือน ไทยส่งออกไปแล้ว มูลค่า 127,568.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.22% โดย 3 ประเทศที่ส่งออกมา ได้แก่ เม็กซิโก บราซิล และอาเจนตินา สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ยาง (ยางรถยนต์) เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ยางพารา และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง