​กรมพัฒน์ฯ จับมือ Robinhood และ Hungry hub ช่วยร้านอาหาร Thai SELECT

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจับมือ Robinhood และ Hungry hub ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT นำร่องกว่า 60 ร้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมดึงธุรกิจสตาร์ทอัป Punpro และ Salehere ช่วยทำแคมเปญส่งเสริมการขาย มั่นใจร้านอาหารมีรายได้เพิ่ม ธุรกิจสตาร์ทอัปได้โชว์ฝีมือ และผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคเพิ่มขึ้น
         
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จับมือธุรกิจสตาร์ทอัป และแพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ (ฟู้ดเดลิเวอรี) ชื่อดัง ได้แก่ Robinhood และ Hungry hub กระตุ้นยอดขายให้ร้านอาหารได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมฯ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเบื้องต้นจะนำร่องร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 60 ร้านก่อนเป็นลำดับแรก เพราะเป็นพื้นที่ ๆ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังได้ร่วมมือกับธุรกิจสตาร์ทอัป เช่น Punpro และ Salehere จัดทำแคมเปญส่งเสริมการตลาดออนไลน์ โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์สายอาหารชื่อดัง ทั้งการแจกโค้ดส่วนลดรายการอาหาร ส่วนลดค่าจัดส่ง ร่วมกับโปรโมชั่นของทางร้าน เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายอีกทางหนึ่งด้วย
         
ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้ร่วมมือกับ Robinhood และ Hungry hub ช่วยให้ความรู้ แนะนำการใช้งานระบบหลังร้านแก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร เช่น ระบบการรับออเดอร์ ระบบการรับชำระเงิน ระบบจัดส่ง รวมทั้งการจัดเตรียมอาหารสำหรับเดลิเวอรี เพื่อเป็นการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และพร้อมปรับธุรกิจเข้าสู่ยุค New Normal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
         


สำหรับผู้บริโภคที่สนใจสั่งซื้ออาหารจากร้านอาหารที่ได้รับตรา Thai SELECT สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ของ Robinhood และ Hungry hub และค้นหาร้านอาหารภายใต้แคมเปญ “DBD ชวนฟิน กิน Thai SELECT” ได้ทันที ซึ่งระบบจะประมวลผลการค้นหาร้านอาหารที่อยู่ใกล้บ้าน สถานที่พักอาศัย หรือจุดที่ผู้บริโภคอยู่ ณ ตอนนั้นมากที่สุดโดยอัตโนมัติ โดยผู้บริโภคสามารถสั่งอาหารได้ทันที หรือจองบริการล่วงหน้า สามารถเลือกสั่งอาหารได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค โดยให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2564
         
นายทศพลกล่าวว่า ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น ธุรกิจร้านอาหาร จะอยู่รอด และมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการที่กรมฯ ช่วยผลักดันให้มีการนำระบบสั่งอาหารและการชำระเงินออนไลน์มาช่วย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าใช้แพลตฟอร์ม (GP) ได้รับการสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และสามารถต่อยอดขอรับสินเชื่อธุรกิจเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ธุรกิจสตาร์ทอัป ได้แสดงศักยภาพในการนำเทคโนโลยีมาช่วยลดอุปสรรคและขยายตลาดธุรกิจร้านอาหาร ได้ฐานข้อมูลร้านอาหาร และพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค และผู้บริโภค ได้ประโยชน์จากการค้นหาร้านอาหาร สั่งอาหารได้รวดเร็ว ทำให้ได้อาหารไทยที่คงคุณภาพ ทั้งด้านรสชาติ ความสะอาด ราคาและปริมาณเดียวกับการซื้อที่ร้าน
         
ปัจจุบัน มีร้านอาหารประมาณ 600,000 ร้านทั่วประเทศ อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งสิ้น 92,659 ร้าน (ข้อมูลจากเว็บไซต์ Wongnai) แบ่งเป็นนิติบุคคล จำนวน 8,541 ร้าน และบุคคลธรรมดา จำนวน 84,118 ร้าน และร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมฯ จำนวน 940 ร้าน ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ 238 ร้าน ภาคเหนือ 154 ร้าน ภาคกลาง 238 ร้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 115 ร้าน ภาคใต้ 143 ร้าน ภาคตะวันออก 52 ร้าน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ก.ค.2564)

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง