กรมการค้าต่างประเทศเผยประกาศกระทรวงพาณิชย์ จัดระเบียบนำเข้าเกลือ ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว กำหนดให้ผู้นำเข้าต้องขึ้นทะเบียน การนำเข้าต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด และต้องรายงานการนำเข้า การครอบครอง การใช้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 4 ก.ย.เป็นต้นไป มั่นใจช่วยดูแลการนำเข้า และแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวนาเกลือ
         
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เกลือเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรอง และต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2564 โดยมีสาระสำคัญกำหนดให้ก่อนนำเข้า ผู้นำเข้า จะต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าเกลือกับกรมฯ (https://bit.ly/3qnGe2c) ขณะที่นำเข้า ต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) หรือหลักฐานอนุญาตให้ส่งออกที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานที่มีอำนาจจากประเทศผู้ผลิตหรือประเทศผู้ส่งออก แสดงต่อกรมศุลกากรประกอบการนำเข้า และหลังนำเข้า ต้องรายงานการนำเข้า การครอบครอง และวัตถุประสงค์การใช้ต่อกรมฯ ทุกเดือนด้วย (https://e-report.dft.go.th) โดยประกาศฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.2564 เป็นต้นไป
         


“ประกาศดังกล่าวเป็นการจัดระเบียบการนำเข้า มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบว่าเกลือที่นำเข้ามาใครเป็นผู้นำเข้าและมีวัตถุประสงค์ไปใช้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคหรืออุตสาหกรรม เพื่อสามารถติดตามสถานการณ์ได้อย่างใกล้ชิดและแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมฯ แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ทำนาเกลือ จึงขอให้ผู้ประกอบการที่นำเข้าสินค้าเกลือเตรียมความพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เป็นการล่วงหน้า”นายกีรติกล่าว
         
นายกีรติกล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างดำเนินการออกประกาศกรมการค้าต่างประเทศเพื่อกำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าเกลือ การรายงาน และการตรวจสอบเกลือ โดยในช่วงนี้จนถึงวันที่ 3 ก.ย.2564 ผู้นำเข้าที่ยังไม่เคยมีบัตรประจำตัวผู้นำเข้าส่งออกของกรมฯ ขอให้มาติดต่อ ทำบัตรประจำตัวกับกรมฯ ไว้ก่อน และเมื่อประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ มีผลใช้บังคับในวันที่ 4 ก.ย.2564 แล้ว กรมฯ จะเปิดระบบให้ผู้นำเข้าขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าเกลือต่อไป

นอกจากนี้ กรมฯ ยังอยู่ระหว่างพัฒนาระบบรายงานการนำเข้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการดำเนินการรายการงานการนำเข้า การครอบครอง และการใช้ด้วย