“จุรินทร์”ถกทูตสปป.ลาว ตกลงเดินหน้าขยายมูลค่าการค้า 2 ประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมาย 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เล็งเพิ่มการเปิดด่านเป้าหมายอีก 7 ด่าน ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์โควิด-19 พร้อมขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์การจัดงานแสดงสินค้าไทยช่วงครึ่งปีหลังที่จะจัดอีก 3 งาน ด้านสปป.ลาวขอไทยเพิ่มนำเข้าสินค้าเกษตร ร่วมมือสินค้าหัตถกรรม แก้ปัญหาปลูกพืชเกษตรอายุสั้นซ้ำซ้อน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายแสง สุขะทิวง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ ห้องประชุมชั้น 11 สำนักงานปลัด กระทรวงพาณิชย์ ว่า ตนได้เชิญท่านเอกอัครราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย มาหารือในเรื่องการเตรียมการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันของสองประเทศ ซึ่งตัวเลขการค้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ปีที่แล้ว รวมกัน 197,429 ล้านบาทหรือ 6,334 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการค้าชายแดน 96.15% แต่เป้าของทั้งสองประเทศในปี 2564 จะทำมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ถึง 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ปีที่แล้วทำได้ 6,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่ายังห่างเป้า จึงได้เรียนหารือกับท่านทูตว่า อยากเห็นการเปิดด่านไทย-สปป.ลาว เกิดขึ้นโดยเร็วเท่าที่ทำได้ ภายใต้เงื่อนไขข้อจำกัดโควิด-19
โดยปัจจุบันไทย-สปป.ลาว มีจุดผ่านแดน ระหว่างกันอยู่ 49 จุด ขณะนี้เปิดดำเนินการอยู่เพียง 14 จุด ถ้ามีจุดผ่านแดนที่จะเปิดเพิ่มได้ ก็ขอความกรุณา สปป.ลาว ได้พิจารณาร่วมกับไทย โดยจุดผ่านแดนที่เป็นเป้าหมายสำคัญในช่วงเวลาอันใกล้ มีอยู่ด้วยกัน 7 จุดผ่านแดน ประกอบด้วย 1.จุดผ่านแดนถาวรปากแซง นาตาล จ.อุบลราชธานี 2.จุดผ่านแดนถาวรเชียงคาน จ.เลย 3.จุดผ่านแดนถาวรท่าเรือหนองคาย 4.จุดผ่านแดนถาวรท่าเทียบเรือเทศบาลนครพนม 5.จุดผ่านแดนถาวรท่าเทียบเรือ จ.มุกดาหาร 6.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแจมป๋อง จ.เชียงราย และ7.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหม้อ จ.หนองคาย
นอกจากนี้ ได้ขอให้ท่านทูตช่วยประชาสัมพันธ์งานแสดงสินค้าของไทยใน สปป.ลาว ในช่วงครึ่งปีหลัง 3 งาน คือ 1.งานแสดงสินค้า Mini Thailand Week 2021 ที่ตลาดคำม่วน เมืองท่าแขก ระหว่างวันที่ 21-25 ก.ค.2564 ซึ่งเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค 2.ประเทศไทย ผู้ประกอบการสินค้าไทย จะร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตริมปิงฝั่ง สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 27-29 ส.ค.2564 3.งาน Thai Seafood Festival ที่เวียงจันทร์เซ็นเตอร์ นครหลวงเวียงจันทน์ระหว่างวันที่ 3-5 ก.ย.2564 เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารทะเลให้ผู้บริโภคชาว สปป.ลาว ได้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของซีฟู้ดจากประเทศไทย
ส่วนประเด็นที่ท่านทูต สปป.ลาว ได้หยิบยกขึ้นมาประเด็นสำคัญ คือ อยากให้ประเทศไทยช่วยสนับสนุนการนำเข้าสินค้าเกษตรของฝั่งสปป.ลาว ทั้งน้ำตาลทราย เมล็ดกาแฟ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งตนแจ้งให้ทราบว่าประเทศไทยไม่ได้จำกัดในเรื่องของปริมาณการนำเข้า เพียงแต่ว่ารายละเอียดอื่น ขอให้ระดับเจ้าหน้าที่ได้เจรจากันต่อไป และอีกเรื่อง คือ กรณีที่ประเทศไทยกับ สปป.ลาว สามารถร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการผลิต การแปรรูป และการตลาดร่วมกันในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับศิลปหัตถกรรม หรือ OTOP ของ 2 ประเทศ ซึ่งได้มอบให้ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ประสานงานกับกระทรวงการค้าของ สปป.ลาว แล้ว
“ท่านทูตยังอยากเห็นการปลูกพืชเกษตร โดยเฉพาะพืชเกษตรอายุสั้น บริเวณแนวชายแดนที่อาจซ้ำซ้อนกับประเทศไทยว่าควรหารือร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลผลิตล้นตลาด ซึ่งผมจะดำเนินการแจ้งให้กระทรวงมหาดไทย เจ้าของเรื่องที่มีคณะกรรมการเจรจาการค้าภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทยระหว่างพื้นที่ชายแดนที่ติดต่อกัน ให้หารือร่วมกันว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เช่น การกำหนดแผนการปลูกร่วมกันบริเวณแนวชายแดน การเตรียมการแปรรูปหรือการทำการตลาดร่วมกันต่อไปในอนาคต”นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับการหารือในครั้งนี้ มีผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วยนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เข้าร่วม
ปัจจุบัน การค้าระหว่างไทย-สปป.ลาว เป็นการค้าชายแดนถึง 96.15% โดยในช่วง 5 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 93,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6% โดยไทยส่งออกไป สปป.ลาว มูลค่า 53,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.53% และนำเข้าจาก สปป.ลาว 5 มูลค่า 40,832 ล้านบาท ได้ดุลการค้ามูลค่า 11,940 ล้านบาท
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง