กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยบริษัทตั้งใหม่เดือนพ.ค.64 มีจำนวน 5,568 ราย ลดลง 7% เมื่อเทียบกับเม.ย.ที่ผ่านมา เหตุโควิด-19 ระบาดระลอก 3 ทำความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจลดลง และคนชะลอการลงทุนทำธุรกิจออกไปก่อน แต่เทียบพ.ค.63 เพิ่ม 33% เหตุฐานปีก่อนยังต่ำ เพราะอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ คาดแนวโน้มดีขึ้น หลังเริ่มฉีดวัคซีน รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีมาตรการช่วยผู้ประกอบการ           

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เดือนพ.ค.2564 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,568 ราย เทียบกับเม.ย.2564 ที่ผ่านมา ลดลง 7% และเทียบกับพ.ค.2563 เพิ่มขึ้น 33% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 21,513.71 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร ที่กลับเข้ามาติดอันดับที่ 3 อีกครั้ง
        
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 792 ราย เทียบกับเม.ย.2564 เพิ่ม 29% และเทียบกับพ.ค.2563 ลดลง 12% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 2,322.75 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
         
สำหรับยอดรวมธุรกิจตั้งใหม่ในช่วง 5 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-พ.ค.) มีจำนวน 34,929 ราย เพิ่มขึ้น 27% ทุนจดทะเบียน 112,286.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% ส่วนธุรกิจเลิกกิจการ 3,882 ราย ลดลง 20% ทุนจดทะเบียน 27,313.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%
         


นายทศพลกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือนพ.ค.2564 ลดลงจากเดือนเม.ย.2564 เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ที่กระจายเป็นวงกว้าง และมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจลดลง และหลายรายติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด และชะลอการตัดสินใจลงทุนตั้งนิติบุคคลออกไปก่อน โดยเฉพาะธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด เช่น ภัตตาคาร ร้านอาหาร บัญชีและการตรวจสอบบัญชี และธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน แต่เมื่อเทียบกับพ.ค.2563 ที่เพิ่มขึ้น 33% เพราะเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ยังอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ ทำให้ฐานปีที่แล้วต่ำ
        
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลได้คิกออฟฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.2564 และเร่งฉีดวัคซีนต่อเนื่อง ประกอบกับมีนโยบายเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ที่มีความพร้อม เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย รวมทั้งการมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่จะเริ่มต้นในเดือนก.ค.2564 และมาตราการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น มาตรการ “สินเชื่อ ฟื้นฟู” มาตรการ “พักทรัพย์ พักหนี้” ของธนาคารแห่งประเทศไทย โครงการ “จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร” ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ หรือเข้าถึงสถาบันการเงิน โดยมีดอกเบี้ยราคาพิเศษ และปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณีน่าจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในครึ่งปีหลังฟื้นตัวขึ้น และมีการจัดตั้งบริษัทใหม่เพิ่มขึ้น
         
ปัจจุบัน มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 31 พ.ค.2564 จำนวน 799,881 ราย มูลค่าทุน 19.54 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 195,786 ราย คิดเป็น 24.48% บริษัทจำกัด จำนวน 602,801 ราย คิดเป็น 75.36% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,294 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ