​“จุรินทร์”ลงพื้นที่อีสาน ติดตามโครงการประกันรายได้-เปิดโมบายพาณิชย์ลดราคา-ดันจับคู่กู้เงิน

img

“จุรินทร์”ลงพื้นที่อีสาน ติดตามความคืบหน้าโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ประชาชน และผู้ประกอบการ ทั้งโครงการประกันรายได้ โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน และโครงการจับคู่กู้เงิน ช่วยร้านอาหาร ส่วนใหญ่ชื่นชม เหตุช่วยเพิ่มรายได้ ลดค่าครองชีพ และช่วยต่อลมหายใจทำธุรกิจ
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 17 มิ.ย.2564 ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ทั้งโครงการประกันรายได้เกษตรกร โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน และโครงการจับคู่กู้เงิน เพื่อช่วยธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งได้รับการตอบรับจากเกษตรกร ประชาชน และผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เพราะช่วยเพิ่มรายได้ ช่วยลดค่าครองชีพ และช่วยให้มีสภาพคล่องในการทำธุรกิจ
         
โดยโครงการประกันรายได้เกษตรกร ได้พบปะกับเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา มันสําปะหลัง และข้าว ณ หอประชุมที่ว่าการอําเภอ กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี โดยเกษตรกรมีความพึ่งพอใจในการดำเนินโครงการ เพราะช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงที่ราคาสินค้าเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีราคาต่ำกว่าที่ประกันรายได้เอาไว้ โดยข้าวหอมมะลิ ประกันรายได้ตันละ 15,000 บาท ยางก้อนถ้วย ประกันรายได้กิโลกรัมละ 23 บาท มันสำปะหลังประกันรายได้กิโลกรัมละ 2.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กิโลกรัมละ 8.50 บาท ซึ่งหากราคาต่ำกว่าที่ประกันไว้ ก็จะมีรายได้ส่วนต่างโอนเข้าบัญชีพี่น้องเกษตรกรโดยตรง ซึ่งมีตัวอย่าง เช่น ข้าวหอมมะลิงวดที่ 3 เดือนพ.ย.2563 มีผู้ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 42,800 บาท มันสำปะหลัง 26,000 บาท เป็นต้น
         


ส่วนโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ได้มีการเปิดและปล่อยขบวนรถโมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยรถประชาชน ณ บริเวณลานหน้าศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ฮอลล์ อําเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีสินค้าบริโภคสำคัญราคาพิเศษนำไปจำหน่ายในเขตชุมชนเมือง โดยจังหวัดอุดรธานีมีจำนวน 15 คัน ตระเวนออกไปเป็นเวลา 30 วันทั่วทั้งชุมชนต่าง ๆ โดยสินค้าสำคัญที่ลดราคาพิเศษ ประกอบด้วย 1.ข้าวสารข้าวหอมถุงละ 5 กิโลกรัม 150 บาท กิโลกรัมละ 30 บาท 2.ไข่ไก่แผงละ 30 ฟอง แผงละ 83 บาทตกฟองละ 2.77 บาท 3.น้ำมันพืชขวดละ 43 บาท 4.ปลากระป๋อง กระป๋องละ 10 บาท 5.น้ำตาลกิโลละ 20 บาท และ 6.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละ 5 บาท และยังมีสินค้าอุปโภคต่าง ๆสำหรับใช้ในการซักล้างชำระล้างร่างกาย รวมทั้งสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ ลดสูงสุดถึง 60% ซึ่งได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี หลังจากที่ได้จัดทำโครงการไปแล้วที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจากนี้ จะขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป
         
ทั้งนี้ ยังได้ติดตามความคืบหน้าการจัดทำโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ณ ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ฮอลล์ อําเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยเหลือร้านอาหารที่กำลังจะสิ้นลม ให้ต่อลมหายใจ เข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขผ่อนปรนที่บางกรณีไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ โดยได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 7-20 มิ.ย.2564 โดยจังหวัดอุดรธานีได้รับความร่วมมือจากพาณิชย์จังหวัดและทีมเซลล์แมนจังหวัดและสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง ช่วยกันอำนวยความสะดวกให้กับร้านอาหารเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้สะดวกขึ้น  
         
สำหรับจังหวัดอุดรธานี มีผู้ยื่นขอสินเชื่อรวม 373 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 307 ล้านบาท โดยอนุมัติแล้ว 144 ล้านบาท ประกอบด้วยธนาคารออมสิน ยื่นขอสินเชื่อ 112 รายวงเงิน 82 ล้านบาท กรุงไทยขอสินเชื่อ 89 ราย วงเงิน 54 ล้านบาท SME D Bank ขอกู้ 80 รายวงเงิน 142 ล้านบาท ธ.ก.ส.ขอกู้ 9 รายวงเงิน 15 ล้านบาท และบสย.ขอกู้ 83 ราย วงเงิน 15 ล้านบาท

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง