กรมพัฒน์ฯ จับมือ “แม็คโคร” จัดชุดสินค้าให้ร้านโชวห่วย นำขายต่อลดค่าครองชีพประชาชน

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ “แม็คโคร” จัดชุดสินค้าราคาประหยัด บรรจุสินค้าที่จำเป็น 23 รายการ ข้าวสาร น้ำมัน น้ำตาล ของใช้ประจำวัน ราคายกชุด 3,589 บาท แจกให้กับร้านโชวห่วยในเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน 3,500 ร้านทั่วประเทศ เพื่อนำไปขายต่อให้ประชาชน คาดช่วยเพิ่มรายได้ร้านโชวห่วยและลดภาระค่าครองชีพประชาชนในสถานการณ์โควิด-19
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับร้านค้าส่งขนาดใหญ่ คือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จัดชุดสินค้าประกอบด้วยรายการสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นสินค้าขายดีในร้านโชวห่วยและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค จำนวน 11 รายการ และรายการสินค้าเพิ่มเติมจากแม็คโครอีก 12 รายการ รวม 23 รายการ เช่น ข้าวสาร น้ำมัน น้ำตาลทราย และของใช้ประจำวันที่จำเป็น รวมมูลค่า 3,589 บาท เพื่อแจกให้กับร้านโชวห่วยที่อยู่ในเครือข่ายของของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จำนวน 3,500 ร้านค้าทั่วประเทศ
         
“การจัดทำโครงการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน และอยากให้ลงลึกไปถึงระดับตำบล ระดับหมู่บ้าน กรมฯ จึงได้ร่วมกับแม็คโครจัดชุดสินค้าที่จำเป็น ที่สำรวจมาแล้วว่าเป็นสินค้าขายดี และคนนิยม เตรียมไว้ให้ร้านโชวห่วย เพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ร้านโชวห่วย และช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนด้วย”
         


ทั้งนี้ ได้กำหนดเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1-31 พ.ค.2564 ณ แม็คโคร ซึ่งมีสาขาครอบคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งสิ้น 92 สาขา แต่ถ้ามีร้านโชวห่วยมารับชุดสินค้าไม่ครบเป้าหมาย 3,500 ร้านค้า จะมีการจัดหารายชื่อร้านค้าเพิ่มเติมและเปิดให้รับชุดสินค้าอีกครั้งในเดือนก.ค.2564
         
สำหรับการพัฒนาโชวห่วยเป็นสมาร์ทโชวห่วย ที่กรมฯ จะเข้าไปช่วยปรับภาพลักษณ์ร้านค้า การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการร้านค้า การให้ความรู้ด้านบัญชี ภาษี การส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษจากผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่าย รวมถึงการเพิ่มรายได้ให้แก่ร้านค้า เช่น ตู้น้ำดื่ม ตู้เติมเงิน และบริการจัดส่งสินค้า ครอบคลุม 4 ภาค เป้าหมาย 3,500 ราย และการส่งเสริมและผลักดันการใช้งานระบบ POS ให้กับร้านค้าโชวห่วยที่มีศักยภาพจำนวน 500 ร้านค้าทั่วประเทศ จะต้องพิจารณาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบด้วย โดยอาจจะชะลอการจัดโครงการและลงพื้นที่ออกไปก่อน เพราะหลายจังหวัดมีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ ทำให้ไม่สะดวกในการจัดกิจกรรม

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งค้าปลีกโชวห่วยขนาดกลาง จำนวน 18,735 ร้านค้า และโชวห่วยขนาดเล็กประมาณ 400,000 ร้านค้า

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง