"พาณิชย์”เผยครึ่งปี 63 ไทยครองแชมป์ส่งออกทุเรียนไปตลาดโลก มีมูลค่า 1,411 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 73% จีนนำโด่งเป็นตลาดอันดับหนึ่ง ครองส่วนแบ่งสูงถึง 73% ยอดส่งออกพุ่ง 140% ตามด้วยฮ่องกงและอาเซียน ชี้เอฟทีเอเป็นปัจจัยสนับสนุน เหตุคู่ค้าไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทย ทำให้แข่งขันได้ดีขึ้น แนะคุมคุณภาพ มาตรฐาน เน้นการผลิตปลอดสารพิษ ใช้ช่องทางออนไลน์ มั่นใจช่วยให้ทุเรียนไทยครองแชมป์ได้ยั่งยืน
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานผลการติดตามสถานการณ์การส่งออกและการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) จากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในส่วนของทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของไทย พบว่า ไทยยังครองแชมป์เป็นประเทศผู้ส่งออกทุเรียนอันดับหนึ่งของโลก และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยทุเรียนมีสัดส่วนในการส่งออกถึง 69% ของการส่งออกผลไม้สดทั้งหมดของไทย
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) ไทยส่งออกทุเรียนสดไปตลาดโลก มีมูลค่า 1,411 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 73% โดยจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย มีมูลค่า 1,022 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 140% มีส่วนแบ่งตลาด 73% ของการส่งออกทุเรียนสดทั้งหมด ตามด้วยฮ่องกง มูลค่า 207 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 34% มีส่วนแบ่งตลาด 15% และอาเซียน มูลค่า 164 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 25% มีส่วนแบ่งตลาด 12% โดยเวียดนามเป็นตลาดส่งออกหลัก
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการติดตามสถิติการส่งออก พบว่า เอฟทีเอมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกทุเรียนของไทยเติบโตได้ดี เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ไม่เก็บภาษีนำเข้ากับทุเรียนไทย จึงทำให้ได้แต้มต่อในการแข่งขันกับคู่ค้าจากประเทศอื่น โดยปัจจุบัน 17 ประเทศคู่เจรจาเอฟทีเอของไทย ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย ชิลี และเปรู ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าทุเรียนสดให้ไทยแล้ว เหลือเพียงเกาหลีใต้ที่ยังเก็บภาษีนำเข้าทุเรียนจากไทย 36%
ทั้งนี้ หากดูเฉพาะการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศที่เป็นคู่เจรจาเอฟทีเอของไทย ในช่วงครึ่งปี 2563 มีมูลค่า 1,396 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 74% หรือคิดเป็น 99% ของการส่งออกทุเรียนไทยทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่มีเอฟทีเอมีการเติบโตได้สูง และยังพบว่าทุเรียนมีการขอใช้สิทธิประโยชน์ส่งออกสูงเป็นอันดับต้น โดยในปี 2562 การส่งออกทุเรียนสดไปจีนมีการขอให้สิทธิเอฟทีเออาเซียน-จีน สูงเป็นอันดับที่ 1 เมื่อเทียบกับสินค้าที่ส่งออกไปจีนทั้งหมด คิดเป็นสัดส่วนเต็ม 100% ของมูลค่าการส่งออกทุเรียนสดไปจีนทั้งหมด
“เกษตรกรและผู้ประกอบการ ควรให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานสินค้า และพัฒนาคุณภาพการผลิต โดยพิถีพิถันตั้งแต่การเพาะปลูก การบรรจุหีบห่อ มีใบรับรองสุขอนามัยพืช รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลง เนื่องจากผู้บริโภคหันมานิยมผลไม้ปลอดสารพิษหรือเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น และควรใช้ช่องทางการขายออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น และให้ทุเรียนไทยครองแชมป์ในตลาดอย่างยั่งยืน”นางอรมนกล่าว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง