​แจ้งจับของปลอมได้เงินด้วยนะ! “พาณิชย์”เผยคนให้เบาะแสจนจับกุมผู้ขายของละเมิด และคดีถึงที่สุด มีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ

img

กรมทรัพย์สินทางปัญญาชี้ช่องได้เงินใช้ แนะประชาชนเจอร้าน เว็บไซต์ เฟซบุ๊กขายของปลอมที่ไหน ให้แจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ หากคดีถึงที่สุด มีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ เผยล่าสุดจ่ายไปแล้วเป็นแสน รอจ่ายอีกเป็นล้าน ส่วนผลปราบปรามสินค้าปลอม พบตลาดโรงเกลือ มาบุญครอง หายไปกว่า 85% เตรียมจัดการต่อให้หมด ปิ๊งไอเดีย ทำลายแทงร้านของปลอมแจ้งเจ้าของอาคาร เจ้าของสถานที่ เพื่อให้ช่วยกดดันอีกทางหนึ่ง
 
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ขอชักชวนให้ผู้ที่พบเห็นการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าในห้าง ในตลาด ในเว็บไซต์ หรือในเฟซบุ๊ก ให้แจ้งเบาะแสเข้ามายังกรมฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการจับกุม เพราะหากสามารถจับกุมและศาลตัดสินคดีจนถึงที่สุดแล้ว ผู้ที่แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินส่วนแบ่งค่าปรับจากคดีด้วย โดยจะได้ 1 ส่วนจาก 4 ส่วน หรือเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย คือ เงินค่าปรับ 100% จะกัน 20% ส่งเข้าคลัง อีก 80% จะนำมาแบ่งเป็น 4 ส่วน โดย 1 ส่วนให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแส และอีก 3 ส่วนให้กับเจ้าหน้าที่ที่จับกุม โดยดูหลักฐานจากบันทึกการจับกุม

ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนแบ่งค่าปรับให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสและเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมดำเนินคดี ได้มีการจ่ายไปแล้วกว่า 1 แสนบาท และเหลือรอการจ่ายอีกเป็นล้านบาท

นายทศพลกล่าวว่า กรมฯ ยังคงดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อย่างต่อเนื่อง โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าของสิทธิ์ ในการตรวจสอบและจับกุม ซึ่งล่าสุดสามารถกดดันให้พื้นที่จำหน่ายสินค้าละเมิด เช่น ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว และห้างมาบุญครอง ร้านจำหน่ายสินค้าละเมิดหายไปแล้วกว่า 85% ซึ่งกำลังกดดันให้ไม่มีจำหน่ายอีกต่อไป
       
ส่วนพื้นที่สีแดง ที่เคยมีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาวางจำหน่าย แต่ปัจจุบันไม่มีขายแล้ว เช่น ตลาดสะพานเหล็ก เพราะกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าไปจัดระเบียบสถานที่ ทำให้ไม่มีผู้ขายอีกต่อไป และที่ถนนวิทยุ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานทูตสหรัฐอเมริกา ได้ถูกกดดันจนไม่มีขาย และที่ยังคงเหลือจำหน่ายอีกเพียงเล็กน้อย เช่น ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า โดยประเมินว่ามีเหลืออีกไม่น่าจะเกิน 5 แผง คาดว่าจะดำเนินการปราบปรามให้หมดไปได้ในเร็วๆ นี้
       
สำหรับการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ยังคงมีอยู่ในห้างสรรพสินค้า ตามอาคารต่างๆ และตามตลาดนัด กรมฯ ได้เข้าไปสำรวจว่ามีร้านจำหน่ายสินค้าละเมิดอยู่หรือไม่ และได้จัดทำแผนผังว่าในห้างนี้ อาคารนี้ ตลาดนี้ มีร้านขายสินค้าละเมิดอยู่ตรงจุดไหน และได้ทำการแจ้งเรื่องไปยังเจ้าของอาคาร เจ้าของสถานที่แล้ว เพื่อให้เขารู้ว่ามีร้านขายของละเมิดที่อยู่ในพื้นที่ตัวเองจุดไหนบ้าง และจะได้ดำเนินการจัดการต่อไป เช่น ไม่ต่อสัญญาเช่าพื้นที่ กับผู้ที่จำหน่ายสินค้าละเมิด เป็นต้น
       
"ต่อไป ถ้ามีการเข้าไปจับกุม ร้านค้า หรือแผงค้า ในพื้นที่ตัวเอง เจ้าของอาคารและเจ้าของสถานที่ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะกรมฯ ได้แจ้งไปแล้วว่ามีร้านขายของปลอมอยู่ตรงไหนบ้าง ดังนั้น เจ้าของจะต้องเข้ามาร่วมกับกรมฯ ในการตรวจสอบและป้องกันด้วย ซึ่งในส่วนของมาบุญครองได้มีการเรียกประชุมผู้ค้าไปแล้ว และได้แจ้งนโยบายไปแล้วว่าจะไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าปลอมในพื้นที่ศูนย์การค้าอีกต่อไป"นายทศพลกล่าว

 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง