กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศขึ้นเหนือลุยแม่ฮ่องสอน ติวเข้มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ถั่วลายเสือ งาดำ และธัญพืช เตรียมพร้อมรับมือการค้าเสรี และใช้ประโยชน์จาก FTA เปิดตลาดสินค้าออกสู่ต่างประเทศ เผยยังได้นำผู้เชี่ยวชาญไปให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าด้วย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ เดินทางไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน กำหนดจัดงานเสวนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ช่องทางรวยของสินค้าเกษตรจากเอฟทีเอ” และ “ทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรสู่ตลาดต่างประเทศ” ให้กับเกษตรกรในพื้นที่จำนวน 80 คน ณ โรงแรมอิมพีเรียล ธารา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 7 ก.พ.2562 โดยเน้นกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพในพื้นที่ เช่น กาแฟ ถั่วลายเสือ งาดำ และธัญพืช เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมฯ จะช่วยให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจและการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอาเซียน จีน อินเดีย และญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งแม่ฮ่องสอนถือเป็นประตูการค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา น่าจะได้ประโยชน์จากการค้าเสรี และยังจะช่วยเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบทางการค้า มาตรการทางภาษีและมาตรการที่มิใช่ภาษี การเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า
ขณะเดียวกัน จะเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการนำสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดแปรรูปจากสินค้าเกษตรมาเข้าร่วมในระหว่างการจัดงาน เพื่อเปิดเวทีวิเคราะห์สินค้าโดยผู้เชี่ยวชาญในการทำธุรกิจด้านต่างๆ รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการตลาดและการส่งออกสินค้าเกษตรไปต่างประเทศ
“กรมฯ มั่นใจว่าการผนึกกำลังร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่มีความรู้ความเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก FTA ได้มากขึ้น รวมทั้งจะมีการสร้างมูลค่าเพิ่ม และยกระดับสินค้าเกษตรของชุมชนให้ได้คุณภาพและมาตรฐานสากล เพื่อให้สามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่ต้องการสินค้าเกษตรคุณภาพและปลอดภัยได้”นางอรมนกล่าว
ในปี 2562 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ ดำเนินโครงการ “เพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” มีแผนดำเนินการจำนวน 6 ครั้ง ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เน้นการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อสุขภาพและปลอดภัย (Food Health and Safety) และเพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าไปตลาดโลกด้วย FTA โดยได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนพ.ย.2561 ณ จังหวัดอุดรธานี และครั้งที่ 2 ในเดือนม.ค.2562 ณ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

