กรมการค้าต่างประเทศชี้แจงข่าวลือการนำข้าวหอมพวงของเวียดนามผสมใน "ข้าวหอมมะลิไทย" แล้วส่งออกจนทำตลาดข้าวไทยเสียหาย ไม่เป็นความจริง เหตุข้าวหอมมะลิไทยที่จะส่งออก ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด มีการตรวจสอบเข้มงวด ไม่ผ่านก็ส่งออกไม่ได้ แถมมีการสุ่มตรวจ DNA ต่อเนื่อง ขอทุกฝ่ายมั่นใจ จะไม่ปล่อยให้ข้าวชั้นพรีเมี่ยมของไทยเสียหาย

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับการนำพันธุ์ข้าวหอม Jasmine 85 หรือข้าวหอมพวงของเวียดนาม เข้ามาปลูกในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันให้ผลผลิตอยู่ในพื้นที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ และทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าอาจจะมีการนำมาปลอมปนในข้าวหอมมะลิไทยส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ว่า กรมฯ ขอยืนยันว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะในการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปจำหน่ายในต่างประเทศ มีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก หากข้าวหอมมะลิไทยไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ก็ไม่สามารถส่งออกได้

ทั้งนี้ ข้าวหอมมะลิไทยที่จะทำการส่งออก จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพ โดยการส่งออก ผู้ส่งออกจะต้องยื่นขอใบรับรองมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย และต้องแจ้งให้บริษัทผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (เซอร์เวย์) ดำเนินการตรวจสอบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้าไปกำกับดูแลการทำงานของผู้ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (เซอร์เวย์เยอร์) และนำตัวอย่างข้าวมาตรวจวิเคราะห์ เมื่อผลตรวจสอบเป็นไปตามมาตรฐาน จึงออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าให้ไปใช้ประกอบพิธีการศุลกากรเพื่อส่งออกต่อไป

“ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการติดตามกำกับดูแลและสุ่มตรวจสอบการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย โดยการสุ่มนำตัวอย่างข้าวที่เซอร์เวย์เยอร์นำส่งมายังสำนักงานมาตรฐานสินค้า และสุ่มซื้อข้าวที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ เพื่อนำมาตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวหอมมะลิไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้การนำข้าวชนิดอื่นมาปลอมปนกับข้าวหอมมะลิไทย ไม่สามารถทำได้ในทางปฏิบัติ เพราะหากมีการปลอมปนจริง ก็สามารถตรวจสอบได้ และไม่มีทางที่จะผ่านการตรวจสอบได้ รวมถึงกรณีการนำข้าวหอมพวงมาผสม ก็ไม่มีทางเป็นไปได้เช่นเดียวกัน”

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเชื่อมั่นในการกำกับดูแลการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย ซึ่งมีการกำหนดกระบวนการขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพไว้เป็นอย่างดี และยืนยันที่จะดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษามาตรฐานและราคาให้สมกับเป็นข้าวพรีเมี่ยมชั้นเลิศของไทยในตลาดโลกต่อไป

นอกจากนี้ ความแตกต่างระหว่างข้าวหอมมะลิไทยกับข้าวหอมพวงของเวียดนาม ก็สามารถตรวจสอบได้ โดยผลการตรวจสอบทางลักษณะทางกายภาพ พบว่า ข้าวหอมพวงมีเมล็ดสั้นกว่าข้าวหอมมะลิไทย และเมื่อตรวจสอบด้วยวิธีการตรวจสอบเมล็ดข้าวสุกที่ต้มในน้ำเดือด (การประเมินหาอุณหภูมิแป้งสุก) และวิธีการย้อมสีด้วยสารละลายไอโอดีน (ตรวจหาข้าวนุ่ม) จึงไม่สามารถนำมาปลอมปนกับข้าวหอมมะลิไทย หรือแม้แต่ข้าวหอมไทยได้

ปัจจุบันมาตรฐานข้าวไทย มี 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ข้าวหอมมะลิไทย ต้องมีข้าวพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 หรือ กข15 ไม่น้อยกว่า 92% , 2.ข้าวหอมไทย มีข้าวหอมไทยไม่น้อยกว่า 80% และ 3.มาตรฐานสินค้าข้าว (ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวเหนียวขาว และข้าวนึ่ง)
 
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit