“พาณิชย์”เผยส่งออกข้าวไทย 9 เดือนทะลุ 8.4 ล้านตัน เพิ่ม 2.87% ส่วนราคาพุ่งแรงกว่าเพิ่มขึ้นถึง 21.40% คาดส่งออกทั้งปี 11 ล้านตันทำได้แน่ เหตุราคาข้าวไทยสู้เวียดนามได้ และข้าวหอมมะลิยังเป็นที่ต้องการ ระบุมีแผนจับมืออาลีบาบาจัดกิจกรรมโปรโมตข้าวคุณภาพสูงของไทย ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวกข 43 และข้าวสี ด้านสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเตรียมเข้าประมูลขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ 2.5 แสนตัน  
         
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) ตามสถิติที่ได้รับจากกรมศุลกากรและใบอนุญาตส่งออกข้าว มีปริมาณรวม 8.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.87% คิดเป็น 84% ของเป้าหมายการส่งออกข้าวในปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 11 ล้านตัน โดยมีมูลค่า 4,314 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.40% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 137,979 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.43% และมีมูลค่าเฉลี่ยการส่งออกข้าวอยู่ที่ตันละ 512.67 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.02%  
         
ทั้งนี้ หากต้องการผลักดันให้การส่งออกข้าวในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 11 ล้านตัน การส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือ (ต.ค.-ธ.ค.) จะต้องส่งออกให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 8.6 แสนตัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ เพราะมีความต้องการสั่งซื้อข้าวไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบข้าวให้กับรัฐบาลจีนตามสัญญาซื้อขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของ 1 แสนตันที่ 6 ตามสัญญา 1 ล้านตัน รวมทั้งยังมีโอกาสขายข้าวเพิ่มให้กับฟิลิปปินส์ ที่มีความต้องการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น
         
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าว พบว่า ราคาส่งออกยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยราคาข้าวขาวของไทยใกล้เคียงกับข้าวของเวียดนาม ที่อยู่ประมาณ 400-410 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ผู้ซื้อหันมาซื้อข้าวไทย ส่วนราคาข้าวหอมมะลิ ก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงตันละ 1,149 เหรียญสหรัฐ ซึ่งปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากช่วงก่อนหน้าที่เคยทะลุตันละ 1,200 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากขณะนี้ข้าวฤดูกาลใหม่เริ่มออกสู่ตลาด แต่ก็ยังเชื่อว่าราคาจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป เพราะยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และกรมการค้าต่างประเทศ ก็มีแผนที่จะออกไปขยายตลาดข้าวคุณภาพสูงของไทย ทั้งในตลาดจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์
         
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ จะเดินทางไปประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดจีนร่วมกับอาลีบาบา ระหว่างวันที่ 8-10 ต.ค.2561 ที่เมืองหังโจว โดยจะทำการโปรโมตและแนะนำข้าวคุณภาพดีของไทย คือ ข้าวกข 43 ซึ่งเป็นข้าวที่มีระดับน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ รวมถึงข้าวคุณภาพดีอื่นๆ ของไทย ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวออร์แกนิก และข้าวสีชนิดต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวจีน
         
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมฯ มั่นใจว่าการส่งออกข้าวไทยทั้งปี 2561 น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ประเมินไว้ที่ 11 ล้านตัน เพราะขณะนี้ ราคาข้าวของไทยในปัจจุบันถือว่าแข่งขันได้ โดยราคาส่งออกข้าวขาว 5% ของไทยอยู่ที่ตันละ 400 เหรียญสหรัฐ เวียดนามตันละ 405 เหรียญสหรัฐ อินเดียตันละ 385 เหรียญสหรัฐ และปากีสถานตันละ 395 เหรียญสหรัฐ
         
สำหรับการเปิดประมูลนำเข้าข้าวของหน่วยงานนำเข้าข้าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ (เอ็นเอฟเอ) เป็นข้าวขาว 25% ปริมาณ 2.5 แสนตัน ในรูปแบบรัฐต่อเอกชน (จีทูพี) ในวันที่ 18 ต.ค.2561 นั้น สมาคมฯ จะเข้าร่วมประมูลด้วย แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะชนะการประมูล เพราะฟิลิปปินส์ตั้งราคาข้าวไว้ต่ำเกินไปที่ 420 เหรียญสหรัฐในเทอมซีเอ็นเอฟ ที่รวมค่าประกันและค่าขนส่งถึงแวร์เฮ้าส์ ซึ่งหากหักค่าใช้จ่ายส่วนนี้ออกและคิดเป็นราคาเอฟโอบี จะตกที่ตันละ 360 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ถือว่าต่ำไป ไม่คุ้มที่จะสู้ราคา เพราะหากได้มา ก็ต้องไปรับซื้อข้าวในราคาถูก ซึ่งสมาคมฯ ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้ โดยประเมินว่า มีอินเดียที่พอสู้ได้ แต่จะได้ทั้งหมดหรือไม่ ต้องติดตาม แต่ถ้าไม่มีใครยื่นประมูล ฟิลิปปินส์ก็ต้องปรับเพิ่มราคาและเปิดประมูลใหม่ และยังคาดว่าฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลอีกในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5 แสนตัน

***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit