เช็กก่อนซวย บริษัทร้างเพียบ! กรมพัฒน์ฯ ขีดชื่อนิติบุคคล 5,106 ราย ออกจากระบบ แนะตรวจสอบให้ดีก่อนทำธุรกิจ

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขีดชื่อนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ 5,106 ราย ออกจากทะเบียน เหตุไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี ส่งผลให้สิ้นสภาพตามกฎหมาย กลายเป็นนิติบุคคลร้าง ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ เตือนประชาชนเช็กให้ชัวร์ก่อนติดต่อทำธุรกิจด้วย โดยสามารถตรวจสอบได้ 3 ช่องทาง สายด่วน 1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th และผ่านแอป DBD e-Service

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 5,106 ราย ออกจากทะเบียน เนื่องจากไม่นำส่งงบการเงินติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี นับแต่ปี 2560 ลงไป เพื่อให้ฐานข้อมูลนิติบุคคลมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน โดยผลจากการดำเนินการ ส่งผลให้นิติบุคคลสิ้นสภาพตามกฎหมาย กลายเป็นนิติบุคคลร้าง ทำให้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้อีกต่อไป

โดยการดำเนินการดังกล่าว เป็นการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้มีความถูกต้อง เพราะนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด เมื่อจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว มีหน้าที่ต้องจัดทำงบการเงินประจำปียื่นต่อกรมฯ เพื่อแสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินกิจการ

อย่างไรก็ตาม มีนิติบุคคลจำนวนไม่น้อย ที่จดทะเบียนจัดตั้งและดำเนินกิจการแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เป็นเหตุให้ต้องเลิกกิจการ จึงไม่นำส่งงบการเงิน หรือบางรายไม่มีที่ตั้งสำนักงานตามที่ยื่นขอจดทะเบียน หรือบางรายจดทะเบียนเลิกกิจการ แต่ไม่ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีตามกฎหมาย ส่งผลให้ชื่อของนิติบุคคลนั้นๆ ยังมีสถานภาพคงอยู่ในระบบฐานข้อมูลของกรมฯ โดยข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง และประชาชน หรือผู้ร่วมค้า ร่วมลงทุน อาจเข้าใจผิดและก่อให้เกิดความเสียหายจากการทุจริตหลอกลวงสภาพอันแท้จริง 

“เพื่อให้ข้อมูลถูกต้องเป็นปัจจุบัน กรมฯ ในฐานะเป็นนายทะเบียนตามกฎหมาย ได้ใช้อำนาจถอนทะเบียนนิติบุคคลที่ทิ้งร้าง หรือเลิกไปแล้ว โดยขอแนะนำให้ประชาชน ผู้ประกอบธุรกิจ และผู้ลงทุนที่มีความประสงค์จะติดต่อหรือทำธุรกิจกับนิติบุคคลรายใดก็ตาม ควรตรวจตรวจสอบสถานภาพของนิติบุคคลนั้นๆ ก่อนว่ามีอยู่จริงหรือไม่  เพื่อให้มั่นใจและป้องกันปัญหาการหลอกลวงหรือแอบอ้าง จนเกิดความเสียหายเกิดขึ้นได้”นางสาวบรรจงจิตต์กล่าว

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานะของนิติบุคคลได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.สายด่วน 1570  2.ทางเว็บไซต์ www.dbd.go.th หัวข้อคลังข้อมูลธุรกิจ และ 3.ดาวน์โหลด Application “DBD e- Service” ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อเช็คสถานะนิติบุคคลได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง