​เพิ่มยอดส่งออกโค้งสุดท้าย

img

สัปดาห์ที่ผ่านมา “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ได้ประชุมสรุป “แผนผลักดันการส่งออกเชิงรุกและเชิงลึก ครึ่งปีหลัง 2565

การประชุมครั้งนี้ใช้รูปแบบ “ออฟไลน์” และ “ออนไลน์” คู่กัน โดยมี “ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์” และ “ทูตพาณิชย์” ที่ประจำอยู่ใน 58 สำนักงาน 42 ประเทศ และมีตัวแทน “ภาคเอกชน” เข้าร่วม 
         
สาเหตุที่ต้องจัดประชุม เพราะนายจุรินทร์ต้องการ “ขับเคลื่อน” การส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ให้ได้มากที่สุด และ “ทำยอด” ให้เป็นไปตาม “เป้าหมาย” ที่ตั้งไว้ที่ “9 ล้านล้านบาท
         
ก่อนที่จะมีการประชุม นายจุรินทร์ ได้มอบหมายให้ “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ” ไปพิจารณาร่วมกับ “ทูตพาณิชย์” ว่า “จะทำอะไรเพิ่มได้บ้าง” ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 เพื่อ “เพิ่มยอด” การส่งออก
         
มีข้อสรุปออกมาว่า จะมีการจัด “กิจกรรมส่งเสริมการส่งออก” เพิ่มอีก 345 กิจกรรม
         
บวกกับกิจกรรมเดิมที่มีอยู่ 185 กิจกรรม รวมเป็น 530 กิจกรรม
         
ทีนี้ไปดูกันว่า แต่ละภูมิภาค จะจัดกิจกรรมอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง และมีกิจกรรมเด่นอะไร เพื่อเพิ่มยอดการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้  
         
เริ่มจาก “ยุโรป” มี 64 กิจกรรม เช่น การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าผ่านเวทีคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) กับสหราชอาณาจักร การลงนาม MOU กับออสเตรีย การผลักดัน Soft Power ร้านอาหาร Thai SELECT สินค้ากลุ่ม HORECA การเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ผลักดันสินค้าไทยขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เจาะตลาดเมืองรอง 9 แห่ง และเจาะสินค้าและบริการ 6 กลุ่ม ผ่าน International Trade Fairs , SMEs Proactive , Trade Mission และ In-Store Promotion โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการส่งออก 2,775 ล้านบาท
         


อเมริกาเหนือและลาตินอเมริกา” มี 36 กิจกรรม เช่น ผลักดัน Soft Power โดยจะร่วมกับสถาบัน Le Cordon Bleu , Tinder , Virtual Cooking Demonstration , Yeip และ Broadway ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมการกินอยู่อย่างไทย ผลักดันสินค้าไทยขายในแพลตฟอร์ม Amazon , Wayfair , Weee จัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์กับผู้นำเข้า 129 บริษัท 264 คู่เจรจา เจาะตลาดเมืองรอง 9 รัฐในอเมริกาเหนือ 2 เมืองในลาตินอเมริกา 4 ประเทศในแคริบเบียน ผ่านกิจกรรม In-Store Promotion , Trade Mission และ MOU และสร้างแบรนด์ไทย ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าส่งออก 2,864 ล้านบาท
         
ตะวันออกกลางและแอฟริกา” มี 39 กิจกรรม เช่น ทำ Mini FTA กับรัฐตอนเหนือไนจีเรีย BUSA แอฟริกาใต้ และโมซัมบิก เร่งทำความตกลง FTA , CEPA และ JTC กับทูร์เคีย ยูเออี อิสราเอล อียิปต์ ผลักดัน Soft Power ร้านอาหาร Thai SELECT และนวดแผนไทย จัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ จัดทำข้อมูลตลาด ร่วมมือด้านโลจิสติกส์ เจาะตลาดเมืองใหม่ เมืองรอง 10 แห่ง จัดคณะผู้แทนการค้า จัดงานแสดงสินค้าอาหาร ก่อสร้าง เครื่องสำอาง อัญมณี รถยนต์ และจัด In- Store Promotion ในซาอุดิอาระเบีย ยูเออี กาตาร์ อียิปต์ ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าส่งออก 8,509 ล้านบาท
         
จีนและฮ่องกง” มี 29 กิจกรรม เช่น ทำ Mini FTA กับกานซู่ ไห่หนาน ยูนนาน เซินเจิ้น ผลักดัน Soft Power ร้านอาหาร Thai SELECT ผลไม้ไทย ดิจิทัล คอนเทนต์ โรงพยาบาล โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ สปา จัด Top Thai Brands VTS เจาะตลาดเมืองรอง 14 เมือง เข้าร่วมงานแสดงสินค้า CIIE , CAEXPO และ CENTRESTAGE ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าส่งออก 1,964.20 ล้านบาท
         
เอเชียใต้” มี 18 กิจกรรม เช่น ทำ Mini FTA ผลักดัน Soft Power ร้านอาหาร Thai SELECT จัดแสดงสินค้าและศิลปวัฒนธรรมไทยในงานต่าง ๆ แทรกซึมผลไม้ไทยเข้าไปในธุรกิจเบเกอรี่ของอินเดีย เจาะตลาดอีคอมเมิร์ซ ผ่าน bigbasket , Daraz และ Amazon เจาะเมืองรองอินเดีย เมืองหลักบังกลาเทศ จัดคณะผู้แทนการค้าไปเยือน จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าส่งออก 870 ล้านบาท
         


เอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย” มี 61 กิจกรรม เช่น ต่อยอด Mini FTA โคฟุ ปูซาน และคยองกี ผลักดัน Soft Power Thai SELECT การ์ตูนคาแรกเตอร์ ละครไทย และแอนิเมชัน ผลักดันการค้าออนไลน์ ผ่าน Rukuten , Amazon , JF LABO , idus , NAVER , PChomeThai , pinkoi ขยายตลาดเมืองรอง 40 เมือง และผลักดันสินค้าวัสดุตกแต่งภายใน สินค้าสัตว์เลี้ยง สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าส่งออก 773.50 ล้านบาท
         
อาเซียน” มี 98 กิจกรรม เช่น ขยายตลาดการค้าออนไลน์ ผลักดัน Soft Power อาหารไทย การเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทยกับอินโดนีเซีย ประชุม JTC ไทย-สิงคโปร์ เจาะเมืองรอง 9 เมือง จัดกิจกรรม In-Store Promotion จัด Mini Thailand Week ส่งเสริมสินค้าฮาลาล ผลักดันสินค้ากลุ่ม HORECA Food ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าส่งออก 634.50 ล้านบาท
         
สรุปคร่าว ๆ จากกิจกรรมที่เพิ่มมา 345 กิจกรรม บวกกับแผนการเจาะตลาดเมืองใหม่ เมืองรอง 105 เมือง ใน 36 ประเทศ
         
คาดว่าจะมี “มูลค่า” การส่งออกเพิ่มขึ้น ประมาณ “20,000 ล้านบาท
         
แม้มูลค่าจะ “ไม่มาก” เมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกรวม 9 ล้านล้านบาท ที่ตั้งเป้าเอาไว้
         
แต่ก็ “ยังดีกว่า” ไม่ทำอะไร
         
ถือเป็นการ “เก็บเล็ก ผสมน้อย” เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก ทำรายได้เข้าประเทศไปเรื่อย ๆ เท่าที่จะเพิ่มได้
         
จากทิศทางการส่งออกของไทย ที่ “โตวันโตคืน” บวกกับแรงขยันของ “กระทรวงพาณิชย์
         
ฟันธงเอาไว้ตรงนี้ “การส่งออก” ของไทยปีนี้ ไม่เพียงแต่ทำได้ “ตามเป้า” ที่ได้ตั้งที่ 4% แต่น่าจะโต “ทะลุเป้า” ด้วย ส่วนจะโตทะลุไปแค่ไหน ไว้มาลุ้นกัน 
         
ส่วนที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด การส่งออก จะเป็น “เครื่องจักร” ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน “เศรษฐกิจไทย” ในปี 2565 ให้เติบโตอีกตัวหนึ่ง  
 
ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด