​ดีใจกับชาวนา

img

ก่อนอื่นต้องขอดีใจกับ “ชาวนา” ที่จะได้รับเงิน “ส่วนต่าง” ในโครงการประกันรายได้ที่ค้างอยู่ซะที หลังจากถูกค้างมาแล้ว 5 งวด คือ งวด 3 , 4 , 5 , 6 และ 7
         
เพราะปัญหา “รัฐไม่มีเงินจ่าย” จากการติดเงื่อนไขตามมาตรา 28 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังภาครัฐ ที่ว่าด้วย “เพดานการก่อหนี้
         
หากจำกันได้ ตอนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ “โครงการประกันรายได้ข้าว ปี 3” อนุมัติกรอบวงเงินไว้ 18,000 ล้านบาท โดย 13,000 ล้านบาท สำหรับจ่ายชดเชยรายได้ และอีก 5,000 ล้านบาท สำหรับใช้ดำเนินมาตรการคู่ขนาน
         
แต่โครงการประกันรายได้ น่าจะใช้เงินจริง 89,000 ล้านบาท
         
จ่ายส่วนต่างไปได้แค่ 2 งวด คือ 1 กับ 2 และ 3 บางส่วน เงินก็หมด
         
ทำให้ต้องมาขอเงินกันใหม่ แต่จะเพิ่มเงินเลยก็ทำไม่ได้ เพราะติดเรื่องการก่อหนี้
         
ก็เลยต้องแก้ปัญหา “เพิ่มเพดานหนี้” โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีมติเมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564 ให้เพิ่มเพดานหนี้
         
เพิ่มจาก 30% เป็น 35% ชั่วคราวแค่ 1 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้ก่อหนี้เพิ่มได้อีกราว ๆ 1.55 แสนล้านบาท
         
จากเดิมกรอบการก่อหนี้ภาครัฐมีวงเงินประมาณ 9 แสนล้านบาท เหลือวงเงินก่อหนี้ได้แค่ 5,300 ล้านบาท ถ้าไม่ขยายเพดาน ก็ก่อหนี้เพิ่มไม่ได้

พอเพิ่มเพดานก่อหนี้ ก็ทำให้ “มีเงินเพียงพอ” ที่จะใช้ในโครงการประกันรายได้
         
ไม่เพียงแค่นั้น ยังเปิดทาง “เผื่อเงินไม่พอ” ให้สามารถขอใช้ “งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน” ของปี 2565 ในการสนับสนุนโครงการประกันรายได้บางส่วน หากมี “ความจำเป็น” ได้ด้วย
         


จากนี้ ก็แค่ “มาลุ้น” ให้ผ่าน ครม.
         
เมื่อผ่าน ครม.แล้ว ก็เป็นขั้นตอนการหาเงิน เมื่อได้เงิน ก็พร้อมที่จะจ่าย “ส่วนต่าง” ที่ค้างอยู่ให้กับชาวนา
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ประเมินไว้ว่า น่าจะเป็นช่วงต้น ธ.ค.2564 ที่ชาวนาจะได้รับเงินส่วนต่าง
         
ก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ามา ณ ที่นี้
         
เงินจ่ายส่วนต่างก็จบไป เพราะนับจากนี้ จะมีเพียงพอที่จะจ่ายไปจนครบทั้ง 33 งวด
         
ส่วนเรื่องที่ “น่ากังวล” ตอนนี้ หรือต่อจากนี้ ก็คือ “ราคาข้าว
         
หากราคาข้าวตกต่ำ เงินจ่ายส่วนต่าง ก็จะต้องเพิ่มมากขึ้น เงินที่มีอยู่ก็อาจจะไม่ “เพียงพอ” แต่ถ้าราคาข้าว “สูงขึ้น” เงินจ่ายส่วนต่าง ก็จะ “น้อยลง

ยิ่งจ่ายน้อยเท่าไร ก็ช่วยลดภาระงบประมาณมากขึ้นเท่านั้น

เรื่องนี้ นายจุรินทร์ “ไม่ได้นิ่งนอนใจ” ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง “กรมการค้าต่างประเทศ” และ “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ” เร่งหาตลาดข้าวให้ได้เพิ่มขึ้น

อย่างตลาดจีน ต้องเจรจาให้จีนซื้อข้าวจีทูจีตามสัญญา ที่เหลืออีก 280,000 ตัน รวมถึงหาทางขายให้อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ

นอกจากนี้ ให้เพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “ข้าวไทย” ในประเทศเป้าหมาย เช่น ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย และญี่ปุ่น หรือตลาดที่มีโอกาสอื่น ๆ

จัดให้หนักทุกรูปแบบ ทั้งทำโปรโมชัน จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ผลักดันข้าวพรีเมียม และเจรจาซื้อขายข้าวผ่านทางออนไลน์



มีเป้าหมายเพื่อ “เพิ่มยอดส่งออกข้าวไทย

เพราะหากเพิ่มยอดส่งออกได้ ก็จะช่วย “ฉุด” ให้ราคาข้าวในประเทศปรับตัวดีขึ้น

ตอนนี้ ราคาก็เริ่มกระเตื้องขึ้นมาแล้ว หลังจากมีสัญญาณการส่งออกเพิ่มขึ้น

เดือนพ.ย.2564 ยังไม่จบเดือน มีสถิติการขอใบอนุญาตส่งออกข้าวกว่า 6 แสนตัน คาดว่าเดือนธ.ค.2564 น่าจะอยู่ในระดับ 6-7 แสนตัน

ทั้งปี จะส่งออกข้าวเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 6 ล้านตัน
         
นั่นหมายความว่า เมื่อส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น โรงสี ผู้ส่งออก ก็ต้องมาซื้อขายในประเทศ เพื่อนำไปส่งออก ก็จะช่วยดันราคาให้ขยับขึ้น
         
และยิ่งช่วงนี้ “ค่าเงินบาท” เป็นใจอ่อนค่า ก็ยิ่งทำให้ข้าวไทย “แข่งขัน” ได้ดีขึ้น
         
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ยังได้หามาตรการเสริมอื่น ๆ เข้ามาช่วยผลักดันราคาข้าว อย่างล่าสุด เพิ่งจัดโครงการจับคู่ช่วย “หมู-ข้าว
         
เป็นโครงการที่ “ได้ 2 เด้ง” เด้งแรกช่วยยกระดับราคาข้าวให้ชาวนา เด้ง 2 ช่วยผู้เลี้ยงหมูลดต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์
         
เซ็น MOU กันไป 50,199 ตัน มีเป้าที่จะทำให้ได้ 150,000 ตัน

นายจุรินทร์ บอกว่า นับจากนี้การผลักดันราคาข้าว จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งการผลักดันส่งออก การใช้มาตรการเสริม

มีเป้าหมาย เพื่อดันราคาข้าวให้สูงขึ้น เพื่อให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น

ที่ทำมา และกำลังจะทำ เห็นด้วยทุกอย่าง
         
แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ ต้องผลักดันให้ราคาข้าวสูงขึ้น ทำให้สูงกว่าราคาที่ประกันรายได้เอาไว้
         
เพราะนั่น คือ รายได้ของชาวนาที่จะเพิ่มขึ้นจริง ๆ  

และยังจะช่วยลดภาระ “งบประมาณของรัฐ” ลงมาด้วย
         
ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด